วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ท่วมกันให้ตายไปข้าง + กับอัตราความน่าถูกกระทืบ

    
     ในช่วงที่ผ่านมา ผมและครอบครัวที่สุดแสนจะสงบสุข (อยู่ด้วยกันทั้งหมด 13 คน) ต้องเผชิญกับภัยทางธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่โดยทั่วไปให้คำนิยามว่า "น้ำท่วม" ถึง 2 ครั้ง 2ครา ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

     ครับ ไม่รู้เป็นห่าเป็นเหวอะไรกับโลกใบนี้รึเปล่านะครับ แต่รู้สึกว่าช่วงนี้ จะเกิดอะไรที่คนเขาเรียกกันว่า "ภัยพิบัติทางธรรมชาติ" บ่อยซะเหลือเกิน

     ทั้งๆที่ไม่มีใครจุดธูปเรียกให้มาหาแท้ๆ แต่ภัยเหล่านี้มันก็ดันมาหาเราในรูปแบบที่เรียกว่า "ไม่ทันตั้งตัว" เลยเกือบทุกครั้งไป

     บางทีมาแล้วไม่มาเปล่า ยังพกพาความเดือดร้อนและความน่ารำคาญให้กับคนที่พบเห็นและประสบกับสิ่งเหล่านี้อีกต่างหาก

     เรียกว่าถ้าหากเป็นคนแล้วล่ะก็ เขาออาจจะเป็นผู้ชายที่นิสัยสถุล ไม่มีสกุล หน้าตากวนตีน และพกพาความอุบาทว์อย่างร้ายแรงจนขนาดที่จะมาเดินเพ่นพ่านในตลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด (เพราะเดี๋ยวอาจจะโดนกระทืบแบบไม่รู้ตัว)

     แต่ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้นแล้ว มหันตภัยทางธรรมชาติเหล่านี้ก็ยังจะมาให้พวกเราพบเจออยู่เป็นประจำ

     ถ้าเกิดสิ่งเหล่านี้เป็นคน และผมดันไปพบเห็นเข้าล่ะก็ ผมอาจจะตะคอกใส่หน้าเขาว่า "ไอเชี่ย!!!มรึงมาทางไหน กลับไปทางนั้นเลยนะ แสรด!!!!!"   ฮ่าฮ่าฮ่า (ต้องเอาแรงๆครับกับพวกแบบนี้)

     เข้าเรื่องต่อดีกว่าครับ....

     เหตการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น คือเหตการณ์ น้ำท่วม ที่ไม่ใช่แค่ "น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง" นะครับ แต่มันคือ "โครตของโครตน้ำท่วม" เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันเล่นท่วมกันทั้งเมือง ท่วมกันเกือบทุกจังหวัด และยังมีโปรโมชั่นเสริมคือความเหน็บหนาวระดับ "สะท้านขนตูด" แถมมาด้วยอีกต่างหาก

     ว่าแล้วผมก็ขอบอก (เขียน) ให้ท่านผู้อ่านได้รู้เลยดีกว่าว่า พอน้ำท่วมแล้ว ความรำคาญ หรือผลกระทบที่เกิดจากน้ำท่วมที่ (ตัวเอง) ต้องเจอนั้นคืออะไรบ้าง และจะแถม "อัตราความน่าถูกกระทืบ" (หากไปเปรียบเทียบกับคน) ให้อีกต่างหากครับ

     เริ่มต้นด้วยที่ ....

     1.) ขนของ!?!
          โครตรำคาญเลยครับ กับการขนของหนีน้ำท่วม เพราะของบางอย่าง ทั้งหใญ่ ทั้งหนัก ชนิดที่ว่าต่อให้ แชมป์โลกนักยกน้ำหนักมายก มันก็ยังหนักอยู่ดี   ล่าสุด ผมเพิ่งจะได้เห็นยายแก่ อายุอานามราวๆ 60 ปี กำลังแบกเตียงนอนเพื่อจะขนหนีน้ำกันปางตายเลยทีเดียวครับ ไม่รู้ว่าคุณยายท่านนั้นแบกไปได้อย่างไรนะครับ (จริงๆแล้วเขาช่วยกันหมากันกับชายหนุ่มอีกคน) สังสัยแกคงคิดเพียงแต่ว่า "หากกรูไม่ขนที่นอน คืนนี้กรูก็ไม่มีที่ให้ซุกหัวนอน" ว่าแล้วจึงจับที่นอนยกขึ้นบ่าก่อนจะไปแบกไปราวกับ วัยรุ่นอายุ 20 ก็ไม่ปาน อย่างงี้ถ้าไปถามคุณยายว่า "คุณยายคะ น้ำท่วมแบบนี้คุณยายรู้สึกอย่างไรมั้งคะ?" คุณยายท่านนั้นคงตอบแบบ "น้ำหมากกระจาย" ไปเลยว่า "แมร่ง....ยายโครตรำคาญเลยอีหนูเอ้ย!!!!" ฮ่าฮ่าฮ่า
          อัตราความน่าถูกกระทืบ :  80 ส้นตีน

     2.) เด็กเล่นน้ำ!?!
          แหม คุณหนูพวกนี้ไม่รู้เลยรึไงครับว่า นี่มันคือ ภัยพิบัติ ไม่ใช่ สวนสนุก ว่าแล้วอนาคตของชาติทั้งหลายแหล่ก็บรรจงเล่นน้ำกันแบบไม่บันยะบันยัง (แต่มีเด็กบางคนนะครับที่ไม่ชอบเล่นน้ำแบบนี้) อันที่จริงมีนก็ไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ แต่ หากคุณกำลังเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ (รถผ่านไม่ได้เพราะน้ำท่วม) ด้วยชุด สีขาวที่ซักและรีดมาเรียบร้อยแล้ว แต่พอกำลังจะเดินไปถึงที่หมาย เด็กกลุ่มหนึ่งกลับกระโดดกระโจนน้ำจนกระจายเต็มเสื้อคุณไปหมด คุณจะทำยังไง? แหมอย่าบอกนะครับว่า จะตบเด็กตัวการที่ทำให้คุณเปียก เขายังเป็นแค่เยาวชนเองนะครับ
          ว่าแล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลยเพราะถ้าหากเกิดคุณตบเด็กไป ดีไม่ดีอาจจะทำให้ผู้ปกครองของเด็กผู้นั้นโมโหโทโส มาตามล้างแค้นให้ลูกหลานอันเป็นที่รักยิ่งของเขาก็เป็นได้ (ทำไมมรึงไม่ดูลูกหลานมรึงก่อนแล้วค่อยมาว่าคนอื่นวะ?) นี่ยังไม่รวมไอ้พวกที่เล่นน้ำแล้วหายสาบสูญไปปล่อยให้พ่อแม่ที่คิดว่าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกลับลูก (ทั้งๆที่ความจริงมันไปเล่นกับเพื่อน)ตามหากันเสียยกใหญ่อีกนะครับ เฮ้อ...คิดแล้วปลื้มแทนประเทศไทยจริงๆนะครับที่มีเยาวชนที่น่ารักน่าตบอย่างนี้อยู่มากมายซะเหลือเกิน (อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงเด็กทุกคนนะครับ)
          อัตราคว่ามน่าถูกกระทืบ : 40 ส้นตีน

     3.) สัตว์เลื้อยคลาน!?!
          ครับ...มันก็ต้องมีกันบ้าง เมื่อเวลาที่น้ำท่วมมันอาจจะไม่ได้แตกต่างไปจาก "ปิดเทอมหใญ่ หัวใจว้าวุ่น" ของเหล่าสัยว์เลื้อยคลานทั้งหลายแหล่หรอกครับ เพราะพวกเล่นออกมาเดินกับเพ่นพ่าน ราวกับวัยรุ่นมาเดินกันหน้าสลอนอยู่แถวๆ "สยามเซ็นเตอร์" ยังไงยังงั้นเลยครับ
          แถมไอ้พวกที่ออกมาเพ่นพ่าน ส่วนใหญ่จัดอยู่ในจำพวก "สัตว์ที่มีพิษ" เกือบจะทุกราย ร้ายแรงกว่านั้นคือ บางทีเราอาจจะเห็น "ไอเข้" หรือ จระเข้ ซึ่งถือเป็นครูใหญ่แห่ง "โรงเรียนสัตว์เลื้อยคลานวิทยาลัย" ออกมาสอดส่องดูแลเหล่านักเรียนที่น่ารัก (และน่ากิน) ของมันด้วยก็เป็นได้ คราวนี้บอกได้คำเดียวครับว่า "ชิปหาย!!!!"
          อัตราความน่าถูกกระทืบ : 80 ส้นตีน

     4.) ไฟฟ้าดับ!?!
          ทุกครั้งที่เกิดเหตการณ์น้ำท่วม ทางภาครัฎฯจำเป็นต้องมีการตัดไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ไฟฟ้ามันลัดวงจร จนช็อตคนตาย แหง็กๆๆๆ (อันนี้ผมคิดเอาเองนะ) แต่นั่นล่ะครับคือปัญหา ทุกวันนี้ในชีวิตคนเราที่ของใช้เกือบทุกอย่างในชีวิตประจำวันจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน พอกระแสไฟฯถูกตัด มันก็ไม่แตกต่างกับว่า ของบางอย่างที่เรามีอยู่มันเหมือนไม่มีค่าอะไรเลย เก็บเอาไปไว้ "เขวี้ยง" ใส่หัวจระเข้ เวลาที่มันจะมาเขมือบเราซะยังจะคุ้มค่ากว่า แต่ใครจะไปกล้าทำล่ะครับ เสียดายของตายชัก!
          อัตราความน่าถูกกระทืบ : 50 ส้นตีน

     5.) พวกมาแจกอาหารให้ผู้ประสบภัย!?!
          อันนี้ดีมากเลยครับ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจ เอาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาแจกกับ พวกเราผู้ประสบภัยนะครับ แต่มันมีอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมเห็นแล้วรู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมาตะหงิดๆ นั่นคือทุกครั้งที่ นายห้างฯ หรือผู้ที่เป็นเจ้าภาพในการแจกข้าวของนั่งรถมาแจกของด้วย มันจะไม่มีการแจกของแค่อย่างเดียวน่ะสิครับ มันจะต้องมีการถ่ายรูป ในขณะที่ นายห้างฯ ใหญ่กำลังยื่นของให้กับผู้ประสับภัย และผู้ประสบภัย ก็กำลังจะรับของพอดี
          บางทีอาจจะมีเสียงจากตากล้องว่า "อ้าว...ยิ้มหน่อยทุกคน~" ราวกับว่าจะมาถ่ายรูปรับใบปริญาอย่างไงอย่างงั้นเลยล่ะครับ เฮ้อ พวกคุณพวกท่านจะเก็บรูปนี้เอาไปใช้หาเสียงหรือไงไม่ทราบ รู้บ้างมั๊ยว่า พ่อแม่ของกรูที่รออยู่ทางบ้าน หิวข้าวจะตายชักอยู่แล้ว นี่ยังจะมา แชะ รูปถ่ายกันสบายอารมส์อยู่อีก  แหม...ที่จริงอยากจะดึงพวกท่านๆลงมาเล่นน้ำกับพวกผมดูสักวัน 2 วัน ท่านจะได้รู้ว่า เวลาเขามาแจกของนั้น "มึงไม่ต้องถ่ายรูปก็ได้" (เฮ้อ~ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีใครมาแจกอะไรล่ะวะ)
          อัตราความน่าถูกกระทืบ : 100 ส้นตีน

     นี่ล่ะครับ คือสิ่งที่ผมคิดว่า มันสร้างความน่ารำคาญและลำบากใจให้กับผมในช่วงที่เกิดเหตการณ์ "น้ำป่าไหลหลาก" ขึ้น ผมหวังว่าเหตการณ์อย่างนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอิกแล้วนะครับ เพราะมันน่ารำคาญเสียจนอยากจะกระทืบหน้าคนเพื่อเป็นการระบายอารมส์

     แต่ก็นั่นแหล่ะครับ ของอย่างนี้มันจะเกิดก็ต้องเกิด ใครก็ไปหยุด หรือฉุดมันเอาไว้ไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือเรามาช่วยกันหาวิธีแก้ไข กันดีกว่าครับ

     เพื่อวันข้างหน้าบ้านเราจะได้น่าอยู่กว่านี้ ประเทศไทยจะได้น่าอยู่กว่านี้ หากเราร่วมมือกันไม้ว่าเรื่องอะไรเราก็ต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอน

     เพราะผมเชื่อเหมือนกับคำที่ใน "โฆษณา" เขาบอกเอาไว้ล่ะครับว่า



"คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น