วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"คนอยากจะอยู่" และ "คนอยากจะไป"


   คนเราทุกคน หากจะ "เลิกรา" กับใครสักคนหนึ่ง มันคงจะเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ และยิ่งถ้าหากการเลิกราของความรักมันขึ้นอยู่กับคนเพียงแค่ 2 คน มันคงจะเป็นการยาก ที่คนหนึ่งคนจะดึงรั้งคนที่ "อยากจะไป" ให้อยู่ต่อ

     ความอกหักไม่ใช่สิ่งที่ "คู่รัก" ทุกคู่ พึงประสงค์จะพบเจอ แต่หากการเจอกับมัน ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกันเพราะถ้าหากความรักนั้นยังคงไม่ใช่ "รักที่ใช่" ต่อให้รักกันปานไหน สุดท้ายก็อาจจะจบที่คำว่าเลิกรา

     และเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้เราทุกคนก็ต้องยอมรับและเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ทั้งๆที่บางครั้ง เราก็ไม่ค่อยเต็มใจจะรับมันสักเท่าไหร่

     เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนผมคนหนึ่งมันอกหักจากความรักกับสาวสวยระดับ "นางเอกหนัง AV" นางหนึ่ง

     ด้วยความสงสารบวกสงสัย และอยากเสือก ผมจึงถามหาเหตุผลของความ "ฉิบหาย" แห่งรักครั้งนี้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน

     มันตอบสั้นๆง่ายๆแบบงงๆครับว่า "คนล่ะเหตผลกัน!?!"

     ด้วยความเคารพ ว่าแล้วผมเลยพูดปลอบใจกลับมันไปสั้นๆง่ายๆ แบบไม่งงๆว่า "เหี้ย!?!"

     คือ อะไรของมรึงคร๊าบ กรูถามเพื่อจะรับความกระจ่าง แต่พี่แกดันตอบกลับมาให้ผม งอ งู 2 ตัวซะอย่างนั้นแหล่ะ

     อาจจะเพราะด้วย สาระเหยที่เรียกกันง่ายๆว่า "Lกฮ" ยังไม่ซึมไปเข้าในกระแสเลือดของมันมากเท่าที่ควรมันจึงทำให้เพื่อนผมคนนี้ตกอยู่ใน "ภวังค์" แห่งความเศร้าจน พูดอะไรไม่เคลียร์

     ก็มันเล่นพูดราวกับว่าวิญญาณ "ศิลปิน" เข้าสิงในตัวมันอย่างไรอย่างนั้น เพราะพูดอะไรออกมา ผมและเพื่อนๆฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ราวกับว่าต้องใช้ "จิตวิญญาณของศิลปิน" ในการรับฟังเท่านั้น ถึงจะฟังรู้เรื่องและเข้าใจ ในความหมายที่แท้จริง

     แต่หลังจากผ่านวาระ "ดื่มจนได้ที่" อาการเมาก็เริ่มแสดงให้เห็น และเมื่อมีอาการเมาออกมาจนเข้าที คราวนี้ไม่ต้องถามเหี้ยอะไรเลยครับ เพื่อนผมอยู่ๆมันก็พูดอกมาเองว่า

     "กรูน่ะอยากให้เขาอยู่ แต่ตัวเขาน่ะอยากจะไป"

     ก่อนจะร้องไห้ราวกับท่อประปาแตกแถวสี่แยกไฟแดงก็ไม่ปาน เดือดร้อนผมและเพื่อนต้องช่วยกันปลอบใจมันอีก

     สุดท้าย มันก็เมา "หลับเหมือนหมา" ทั้งคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มที่มาจากการร้องไห้ตลอดเวลาในขณะที่กำลังนั่งดื่ม "น้ำแห่งการเข้าสงคม"

   
  "คนอยากจะอยู่และคนออยากจะไป"


     ความรักอาจจะมีคนแค่ 2 ประเภทนี้จริงๆก็เป็นได้นะครับ

     ไอ้ตอนที่รักกันดี มีความสุขกันตลอด หวานกันแบบไม่เกรงใจน้ำตาล ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคงมีความรู้สึก "อยากจะอยู่" ด้วยกันทั้งคู่ จึงทำให้ความรักมันช่าง "โรแมนติก" และ "สดใส" ซะเหลือเกิน

     รักกันใหม่ๆ อะไรๆก็ดูดี ขนาดขี้ยังไม่เหม็น

     ไปไหนก็จะไปด้วยกัน เดินจูงมือกัน เป็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็จะคอยถามหา คอยเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา และจะคอยเติมเต็มความรักกันแบบ ไม่อายฟ้าสางเทวดา

     นั่นแหล่ะครับ เรียกว่าอาการของ "คนอยากจะอยู่"

     แต่พออยู่กันไปนานๆ เมื่อเริ่มที่จะเรียนรู้ "สันดานของกันและกัน" มากขึ้นความรักมันก็เริ่มจะ "จืดจาง" เหมือนกับเหล้าที่ถูกผสมโดยโซดามากขึ้นจนบางครั้งอาจจะทำให้เกิด ความรู้สึก "อยากจะไป" ขึ้นมา

     ครั้งหากเกิดความรู้สึกว่า "อยากจะไป" ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย การเลิกลานั้นอาจจะจบลงด้วยการ "จากกันด้วยดี" ก็เป็นได้

     แต่หาก ความความรู้สึก "อยากจะไป" ที่ว่า เกิดขึ้นแค่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้นล่ะก็ ทีนี้เป็นเรื่องเลยล่ะครับ

     ไอ้คนที่ "ยังรัก" และยังคง "อยากจะอยู่" ก็จะทำทุกวิถีทางให้อีกฝ่ายหนึ่งอยู่กับอีกฝ่ายต่อไปให้ได้ แต่ไอ้ฝ่ายที่ "หมดรัก" และ "อยากจะไป" ก็จะทำทุกวิถีทางเช่นกันเพื่อที่จะไปจากอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ได้

     พอเกิดอาการแบบนี้ จากเมื่อก่อนที่เคยดูแลกัน ห่วงใยกัน กลายสภาพมาเป็น "ไม่อยู่ในสายตา" ซะอย่างนั้น ขนาดที่ว่า ถ้าเราเดินเอาหัวไปโขกกับกำแพง แทนที่จะเดินมาดูหัวของเราก่อนว่าเป็นอะไรมั๊ย แต่พี่แกดันเสือกไปดูกำแพงก่อนเลยว่า มันเป็นรอยรึเปล่า? เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า "กรูเป็นห่วงกำแพงมากกว่ามรึงนะ" ฮ่าฮ่า

     ไอ้คนรั้งเองก็เสียใจนะครับที่รู็ว่า ต่อให้รั้งยังไงคนอยากไป มันก็ยังอยากไปอยู่ดีนั่นแหล่ะครับ จนบางครั้งมันก็จะเป็นหนามที่คอยทิ่มแทงตัวเองตลอดเพราะ ขาดเขาไปเราก็อยู่ไม่ได้ แต่ดึงรั้งเขาไว้เขาก็อยู่แบบไม่เต็มใจที่จะอยู่ เพราะหมดรักกันแล้ว

     ไม่รู้จะสงสารใครดีนะครับ ระหว่างคนที่อยากไปแต่ถูกดึงรั้งให้อยู่ กับคนที่ดึงรั้งให้อยู่ทั้งๆที่อีกคนอยากจะไปแล้วตาม

     ผมเองขอสารภาพแบบไม่อายฟ้าเลยตรงนี้ครับว่าทุกครั้งที่มีความรัก ผมไม่เคยมีความรู็สึกเป็น "คนอยากไป" เลยสักครั้ง (เนื่องด้วยผมเป็นคนรักใครแล้วรักจิง หวังอึ๊บจริงๆ ฮ่าฮ่า)

     แม้อาจจะมีบางครั้งที่ผมอาจจะรู้สึก "เบื่อและรำคาญ" คนข้างกายจนอยากจะให้เธอผู้นั้นออกไปห่างๆกายผมบ้างก็ตาม แต่ไม่เคยมีสักนิดที่มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างการ เลิกรา

     แต่ดูเหมือนฟ้าคงจะเกลียดในตัวของผมมาก ท่ายจึงสาปแช่งให้ทุกครั้งที่ผมมีความรัก คู่ขา (แฟน) ของผมจะมีอาการรู้สึก "อยากจะไป" เป็นประจำ จนทำให้ท้ายที่สุด ผมต้องอกหักรักคุด ตุ๊ดเมิน มากนับต่อนับ

     ทั้งๆที่ฟ้าส่งผมมาเกิดเป็นคนแบบไม่ค่อยปรกติทั้ง "หน้าตาและนิสัย" แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังคงตามกลั่นแกล้งตัวผมแบบไม่หยุดหย่อนอีก สงสัยชาติที่แล้วผมคงทำบาปเอาไว้มาก ฮ่าฮ่า

     ไม่รู้ชาตินี้ผมจะเจอกับใครสักคนรึเปล่านะครับ ที่มีความรู้สึก "อยากจะอยู่กับผมไปตลอดชีวิต" อันนี้ก็ต้องดูกันไปนาน

     .................

     อย่างที่บอกล่ะครับ คนอยากจะอยู่ ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกัน เช่นเดียวกันกับคนอยากจะไป ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะตีจากไปให้ได้

     ผมขออวยพรให้นะครับ อวยพรให้ทุกคู่รักที่ยังคงรักกัน มีความรู้สึกที่ "อยากจะอยู่" ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายไปนานๆ เท่าที่จะนานได้

     แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เกิดมีความรู้สึกว่า "อยากจะไป" ขึ้นมาล่ะก็


 "ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ!?!"

5 ความคิดเห็น:

  1. เคยได้ยินมั้ยคะ...ประมาณว่าฝ่ายที่บอกเลิก ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยากเลิกเลย
    เพียงแต่การกระทำของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลด ละ เลิก พฤติกรรมเจ้าชู้
    ไม่แม้แต่จะใส่ใจ ในความรู้สึกของคนที่รัก ซึ่งจริงๆ อาจจะหมดรักแล้ว แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกยุติความสัมพันธ์
    เมื่อเจอพฤติกรรมซ้ำๆ ฝ่ายที่รักมากกว่าก็จะแสดงพฤติกรรม ที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวในสายตาของคนอื่นๆ รวมถึงคนที่รักก็มองเช่นนั้น
    สุดท้าย ฝ่ายที่ไม่อยากเลิกก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ บอลลา ใจหวังเพียงว่า อีกฝ่ายคงจะใจหาย และยอมเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
    ที่ไหนได้ ในเมื่อบอกเลิก ก็จัดให้ โดยอ้างเพียงว่า ก็บอกเลิกเองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง อยากเลิก ก็เลิก แล้วก็จากไปโดยไม่ได้แยแสว่า อีกฝ่ายจะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้หรือไม่ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนอื่นที่เพิ่งคบไม่นาน หรืออาจจะคบมาพร้อมๆกันก็เป็นได้

    ความรักเนี่ย..เป็นอะไรที่น้ำเน่ากว่าในละครด้วยซ้ำ ว่าป่ะ?!

    ตอบลบ
  2. เคยได้ยินมั้ยคะ...ประมาณว่าฝ่ายที่บอกเลิก ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยากเลิกเลย
    เพียงแต่การกระทำของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลด ละ เลิก พฤติกรรมเจ้าชู้
    ไม่แม้แต่จะใส่ใจ ในความรู้สึกของคนที่รัก ซึ่งจริงๆ อาจจะหมดรักแล้ว แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกยุติความสัมพันธ์
    เมื่อเจอพฤติกรรมซ้ำๆ ฝ่ายที่รักมากกว่าก็จะแสดงพฤติกรรม ที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวในสายตาของคนอื่นๆ รวมถึงคนที่รักก็มองเช่นนั้น
    สุดท้าย ฝ่ายที่ไม่อยากเลิกก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ บอลลา ใจหวังเพียงว่า อีกฝ่ายคงจะใจหาย และยอมเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
    ที่ไหนได้ ในเมื่อบอกเลิก ก็จัดให้ โดยอ้างเพียงว่า ก็บอกเลิกเองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง อยากเลิก ก็เลิก แล้วก็จากไปโดยไม่ได้แยแสว่า อีกฝ่ายจะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้หรือไม่ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนอื่นที่เพิ่งคบไม่นาน หรืออาจจะคบมาพร้อมๆกันก็เป็นได้

    ความรักเนี่ย..เป็นอะไรที่น้ำเน่ากว่าในละครด้วยซ้ำ ว่าป่ะ?!

    ตอบลบ
  3. เคยได้ยินมั้ยคะ...ประมาณว่าฝ่ายที่บอกเลิก ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยากเลิกเลย เพียงแต่การกระทำของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลด ละ เลิก พฤติกรรมเจ้าชู้ ไม่แม้แต่จะใส่ใจ ในความรู้สึกของคนที่รัก ซึ่งจริงๆ อาจจะหมดรักแล้ว แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกยุติความสัมพันธ์
    เมื่อเจอพฤติกรรมซ้ำๆ ฝ่ายที่รักมากกว่าก็จะแสดงพฤติกรรม ที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวในสายตาของคนอื่นๆ รวมถึงคนที่รักก็มองเช่นนั้น
    สุดท้าย ฝ่ายที่ไม่อยากเลิกก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ บอลลา ใจหวังเพียงว่า อีกฝ่ายคงจะใจหาย และยอมเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
    ที่ไหนได้ ในเมื่อบอกเลิก ก็จัดให้ โดยอ้างเพียงว่า ก็บอกเลิกเองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง อยากเลิก ก็เลิก แล้วก็จากไปโดยไม่ได้แยแสว่า อีกฝ่ายจะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้หรือไม่ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนอื่นที่เพิ่งคบไม่นาน หรืออาจจะคบมาพร้อมๆกันก็เป็นได้

    ความรักเนี่ย..บางคู่ เป็นอะไรที่น้ำเน่ากว่าในละครด้วยซ้ำ ว่าป่ะ?!

    ตอบลบ
  4. เคยได้ยินมั้ยคะ...ประมาณว่าฝ่ายที่บอกเลิก ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยากเลิกเลย เพียงแต่การกระทำของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลด ละ เลิก พฤติกรรมเจ้าชู้ ไม่แม้แต่จะใส่ใจ ในความรู้สึกของคนที่รัก ซึ่งจริงๆ อาจจะหมดรักแล้ว แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกยุติความสัมพันธ์
    เมื่อเจอพฤติกรรมซ้ำๆ ฝ่ายที่รักมากกว่าก็จะแสดงพฤติกรรม ที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวในสายตาของคนอื่นๆ รวมถึงคนที่รักก็มองเช่นนั้น
    สุดท้าย ฝ่ายที่ไม่อยากเลิกก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ บอลลา ใจหวังเพียงว่า อีกฝ่ายคงจะใจหาย และยอมเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
    ที่ไหนได้ ในเมื่อบอกเลิก ก็จัดให้ โดยอ้างเพียงว่า ก็บอกเลิกเองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง อยากเลิก ก็เลิก แล้วก็จากไปโดยไม่ได้แยแสว่า อีกฝ่ายจะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้หรือไม่ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนอื่นที่เพิ่งคบไม่นาน หรืออาจจะคบมาพร้อมๆกันก็เป็นได้

    ความรักเนี่ย..บางคู่ เป็นอะไรที่น้ำเน่ากว่าในละครด้วยซ้ำ ว่าป่ะ?!

    ตอบลบ
  5. เคยได้ยินมั้ยคะ...ประมาณว่าฝ่ายที่บอกเลิก ที่จริงแล้วมันไม่ได้อยากเลิกเลย เพียงแต่การกระทำของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมลด ละ เลิก พฤติกรรมเจ้าชู้ ไม่แม้แต่จะใส่ใจ ในความรู้สึกของคนที่รัก ซึ่งจริงๆ อาจจะหมดรักแล้ว แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกยุติความสัมพันธ์
    เมื่อเจอพฤติกรรมซ้ำๆ ฝ่ายที่รักมากกว่าก็จะแสดงพฤติกรรม ที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวในสายตาของคนอื่นๆ รวมถึงคนที่รักก็มองเช่นนั้น
    สุดท้าย ฝ่ายที่ไม่อยากเลิกก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ บอลลา ใจหวังเพียงว่า อีกฝ่ายคงจะใจหาย และยอมเลิกพฤติกรรมแบบนั้น
    ที่ไหนได้ ในเมื่อบอกเลิก ก็จัดให้ โดยอ้างเพียงว่า ก็บอกเลิกเองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง อยากเลิก ก็เลิก แล้วก็จากไปโดยไม่ได้แยแสว่า อีกฝ่ายจะฝ่ามรสุมชีวิตไปได้หรือไม่ แล้วก็ไปแต่งงานกับคนอื่นที่เพิ่งคบไม่นาน หรืออาจจะคบมาพร้อมๆกันก็เป็นได้

    ความรักเนี่ย..บางคู่ เป็นอะไรที่น้ำเน่ากว่าในละครด้วยซ้ำ ว่าป่ะ?!

    ตอบลบ