วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

จับปลา 2 มือ!?!

     เคยได้ยินมั๊ยครับ กับสำนวนที่มีการสอนลูกหลานมา นมนานแล้วว่า "อย่าจับปลา 2 มือ"

     ล่าสุด สำนวนที่ว่านี้ถูกส่งออกจากปากของ "มารดา" ผู้เป็นที่รักยิ่ง มากระแทกรูหูทั้ง 2 ข้างของผม พูดง่ายๆคือถูกด่านั่นแหล่ะครับ

     แหม อยู่ดีไม่ว่าดี ผมก็หาเรื่องให้ พระมารดา ต่อว่า เอาจนได้นะครับ แต่ช่างเถอะครับ เพราะมีคนเคยบอกผมว่า "ถูกแม่ด่า มันยังดีกว่าถูกคนอื่นชม" (แต่ผมอยากถูกชมมั้งนี่น่า เหอเหอ)

     ที่มาของการด่า (จริงๆแล้วแค่ต่อว่า) ครั้งนี้ก็ไม่มีอะรมากมายหรอกครับ แต่เป็นเพราะ เทศกาลที่คนไทยทั้งประเทศเรียกกันว่า "สงกรานต์" นี่แหล่ะครับ เป็นต้นเหตทำให้แม่ผมพูดว่า "อย่าจับปลา 2 มือ" ขึ้นมา

     ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านลองมาอ่านเรื่องราวของผมก่อนนะครับ และ ค่อย ตัดสินเอาเองว่า ผมสมควรจะถูก "ท่านแม่" ต่อว่ารึเปล่า?

     เนื่องจากเดือนเมษายนเป็น "เดือนแห่งการสังสรรค์" โดยแท้จริง คนส่วนใหญ่ในประเทศมักจะทำอะไรที่เรียกกันง่ายๆว่า "ฉลอง" (ไม่ใช่ภัคดิวิจิต) กันแบบต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบางทีมันอาจจะเลยช่วงเทศกาลไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงถือคำโบราณ (รึเปล่าไม่รู้?) ที่ว่า

     วันศุกร์พี่ไทยก็เมา วันเสาร์พี่ไทยก็เมา วันไหนๆพี่ไทยก็เมา ฮ่าฮ่าฮ่า

     และเนื่องด้วยผมเป็นคนไทยที่มีเพื่อนฝูงอยู่มากพอสมควร (เพื่อนผมถูกเรียกเป็นฝูงเพราะส่วนมากมันจะไม่ใช่คน ฮ่าฮ่า) ว่าแล้วพอถึงเดือนที่ 4 ของทุกปี จึงจะมีการ "ตั้งวง" ระดับอลังการงานสร้างเลยทีเดียว

     ครับ เพื่อนมันชวนไปกิน ดื่ม เที่ยวแทบจะทั้งเดือนสำหรับในเดือนนี้

     และเนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจใน Lกฮ สักเท่าไหร่ ครั้นจะไปมันซะทุกงาน มันก็คงจะไม่ไหว (ผมไม่อยากจะ แจกอาหารให้หมามัซะทุกวันน่ะครับ)

     ว่าแล้วก็อยากจะทำการตอบ "ปฏิเสธ" งานไหนที่ผมเห็นว่าไม่ค่อยจำเป็นไปซะ

     แต่ทุกครั้งที่ตอบ "No" สิ่งที่เพื่อนๆมักจะพูดกลับมา (เชิงประชด) คือ

     "เออ มรึงไม่ต้องมาก็ได้ นานๆเจอกันที มรึงคงไม่ว่างนะสัส" หรือ

     "ทำงานไปต่ะ กรูรู้ว่างานมรึงน่ะ สำคัญ จะมาเมากับพวกกรูมรึงคงลำบากใจ ไม่เป็นไรว่ะเพื่อน กรูแมร่งโครตเข้าใจมรึงเลย"

     ว่าแล้วไม่ว่าเปล่า เพื่อนๆที่น่ารักของผมดันแจกของชำร่วยที่เรียกกันง่ายๆว่า "นิ้วกลาง" มาให้ผมเอาไปนอนเล่นที่บ้านอีก ฮา

     ครับ เนื่องด้วยกลัวจะถูกกล่าวหาว่าผมเป็น "โบ๋ทุ่มเพื่อน!!!" ผมจึงพยายามที่จะตอบรับมันแมร่งซะทุกงานเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ได้ดูเลยว่าร่างกายและจิตใจอันบอบบาง มันรับไหวแล้ว (ใครก็ได้ ช่วยกรูที~~~)

     เข้าเรื่องเลยครับ...... แม่ผมมาเห็นสภาพที่รับไม่ได้ของลูกชายสุดที่รักในสภาพที่ ไม่เมา แต่ "ดูไม่ได้" เลยทำให้เกิดอาการเป็นห่วง พร้อมกับบอกว่า

     "ไม่ต้องไปกินกับเพื่อนมากนักก็ได้ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา"

     "ไม่ได้หรอกครับ เพื่อนกันทั้งนั้น เวลาผมมีเรื่องเดือนร้อนอะไร หรือมีงานวันสำคัญของผมที่ไหน เพื่อนๆจะได้มาร่วมงาน ถ้าเราไม่ไปร่วมงานของเขาก่อน แล้วงานเราเขาจะมาเหรอ?"

     ครับ....ง่ายๆคือ ถ้าให้เขาก่อน เขาก็ต้องให้เราหลับมาทีหลัง เหมือนกันครับ ถ้าเราไปงานเขา ทีหลังงานของเรา เขาก็ต้องมา

     คงจะไม่มีใครหรอกนะครับ ที่อยากจัดงานวันเกิดแล้วไม่มีใครมาเลยสักคน มีแต่คุณที่ยืนร้องเพลง Happy birthday to me อยู่คนเดียว แบบนั้นให้ไปปาร์ตี้กับหมาข้างวัดมันยังดูจะสนุกกว่าอีกนะครับ

     แม่ผมเห็นว่าผมยังคงดื้อดึงทำท่าจะไปมันซะทุกงาน (ปาร์ตี้) แกก็เลยพูดออกมาว่า "อย่าจับปลา 2 มือสิ ไปเฉพาะงานที่มันสำคัญๆก็พอแล้ว งานไหนไม่สำคัญ หรือ ถ้าเพื่อนคนไหนไม่ได้อยู่ต่างจังหวัดล่ะก็ ค่อยไว้เจอกันวันหลังก็ได้"

     แหม....พูด คุณแม่ครับ พูดน่ะง่ายนะครับ แต่เวลาตอบปฏิเสธ น่ะสิครับมันยาก เพื่อนๆจะเข้าใจหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ฮ่าฮ่าฮ่า

     ในขณะที่ผมกำลังจะบอกแม่ว่า "ผมยังไหว" อยู่นั้นเอง แม่ผมก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า

     "แกน่ะ จับปลา 2 มือแบบนี้ เดี๋ยวมันก็หลุดมือไปซะ ทั้ง 2 ตัวเลยหรอก แกต้องจับปลา 2 มือแบบแม่นี่ถึงจะถูก"

     เอ๊ะ.....สำนวน "จับปลา 2มือ" ยังมีในอีกรูปแบบอื่นอีกเหรอเนี่ย ทำไมผมถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลย

     "ยังไงล่ะครับ แม่" ผมถามกลับแม่ไป

     แม่ผมแสระยิ้มก่อนที่จะพูดต่อมาว่า

     "ก็แม่เอามือ 2 ข้างเนี่ย จับปลาแค่ตัวเดียวไง จะได้จับแน่นๆ ไม่หลุดมือน่ะสิ ฮ่าฮ่าฮ่า"

    

 เออ จริงของแม่แฮะ



ขอบอกไว้ก่อนเลยตอนนี้นะครับ งานปาร์ตี้ของเพื่อนบางงานผมเองก็อยากไปเพราะอยากไปนะครับ ไม่ได้หวังให้เพื่อนๆทุกคนมาตอบแทนผมด้วยการมางานปาร์ตี้ครั้งต่อไปของผม อันนี้ ถ้าเป็นเพื่อนระดับเห็นขนหน้าแข้งก็รู้ชื่อพ่อแล้วล่ะก็ ต่อให้คุณพาไปไหนผมก็ไปครับ.....โดยที่คุณไม่ต้องตอบแทนอะไรผมเลย ฮิฮิฮิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น