วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ผ่านกาลเวลา... ไม่ได้หมายความว่า "ความรัก" คุณจะดีขึ้น!?!


"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ความรัก"


อยู่ๆเพื่อนผมคนหนึ่งมันพูดขึ้นมาในระหว่างที่ พวกเราเหล่าผู้ชาย (หน้าตาดี) กำลังนั่งตั้งวงสนทนา นินทาแฟน ของแต่ล่ะคนกันอยู่


เอ่อ...ที่จริง เขาต้องพูดว่า "ระยะทางพิสูทน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน" มิใช่เหรอครับ? แต่เพื่อนผมมันเปลี่ยนจาก "คน" มาเป็น "ความรัก" ซะอย่างนั้น


สงสัยตอนเรียนมา ครูมันคงจะสอนมาแบบผิดๆ จึงทำให้เพื่อนผมคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้าง "ดักดาน" เหลือเกิน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า "ฉลาดกว่าควายเล็กน้อย" จนลืมไปไว้ปรกติเขาใช้คำว่า "คน" ไม่ใช่ "ความรัก" (เพราะเหตนี้ไงมันเลยเป็นเพื่อนผม เพราะเขาเคยบอกว่า คนโง่ย่อมดึงดูดคนโง่ ฮ่าฮ่าฮ่า)


เอาเถอะครับ ถึงมันจะพูดผิดไปบ้าง แต่สิ่งที่มันพูดก็ถือว่า เป็นที่ "ถูกต้อง" พอสมควร


ครับ.....คนเรานั้นบางที อาจจะต้องผ่านมาหลาย "สถานะ" กับคนคนหนึ่งก่อน จึงจะเรียก คนๆนั้นว่าเป็น "คนรัก" ได้


มันมักจะเริ่มต้นจาก "คนรู้จัก" กลายมาเป็น "เพื่อน" จนพัฒนามาเป็น "คนรู้ใจ" หรือบางคนอาจจะผ่านสถานะมามากกว่า 3 สถานะนี้กว่าจะได้เป็นแฟน


ลองสังเกตดูนะครับ หากเราเริ่มการจีบใครสักคนหนึ่งเป็น "แฟน" ในทันที โดยที่ไม่ผ่านสถานะอะไรมาก่อนเลย ความรักนั้นมักจะไม่ยืนยาว เพราะอะไรๆที่คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า "สันดาน" มันจะค่อยๆออกมาทีละนิด ทีละนิด จนเราค่อยๆเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ


จนในที่สุด มันก็ทำให้คนๆนึงจากที่เคยรักกัน มันก็ต้องมาทนอยู่เพราะต่างฝ่ายต่างไม่เคยศึกษากันและกันให้ดีกันมาก่อน


แต่ว่าไม่ใช่ทุกคู่หรอกนะครับที่เป็นอย่างที่กล่าวมา เพราะบางคู่ที่เริ่มต้น "ความสัมพันธ์" กันรวดเร็วแบบนี้ ก็มีไปถึงฝั่งฝันของชีวิตเหมือนกัน  แต่ว่ามันมีเพียงน้อยนิดเท่านั้นล่ะครับ ที่จะเป็นแบบนี้ (ผมเดาเอาเองนะครับ)


ความรักที่ดีควรเริ่มต้นจากการที่ คน 2 คนศึกษากันให้รู้ลึกถึงอีกฝ่ายหนึ่งซะก่อน และเมื่อถึงเวลาที่สมควรก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงสถานะขึ้นไปที่ละน้อยๆจนในที่สุกก็กลายไปเป็นคนรักกัน


ความรักที่เกิดจาก "ความเข้าใจ" เพราะต่างคนต่างได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมานานมากพอแล้วก่อนที่จะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่า "คู่ชีวิต" ได้ นั่นถือเป็นความรักที่ มีความสุขที่สุด ในสายตาของผมนะครับ (และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็คงคิดเช่นเดียวกันกับผม)


แต่อย่าคบเป็นเพื่อนให้มันนานไปนะครับ เพราะเดี๋ยว "หมาจะคาบไปแด๊กส์" ซะก่อน ฮ่าฮ่าฮ่า


แต่.....ในทางกลับกัน มันก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ ครองรักกันมานานๆแล้ว จะต้องมีความั่นคงในเรื่องของความรักนะครับ มันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน


คนเราบางทีพอเริ่มรักใครสักคนแล้ว ก็จะรักคนๆนั้นมากจนลืมคิดถึงอะไรบางอย่างที่เรียกว่า "ความสุข" ไป


หลังจากเป็นแฟนกันใหม่ๆ บางทีนิสัยที่ไม่ดีๆของเขาที่เรารู้มาตั้งแต่ตอนที่ยีงเป็นเพื่อนกันอยู่นั้นอาจจะทำให้เราแค่รู้สึก "เฉยๆ" ในตอนแรกๆ จนเวลาผ่านไป หากคนเดิมยังคงที่จะไม่เปลี่ยแปลงนิสัยเสียแบบเดิมๆ มันก็อาจจะทำให้เรารู้สึก "เบื่อ" และหากยังคงทนต่อไปอีกโดยที่ คนๆเดิมยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง มันก็อาจจะทำให้เรา"ไม่มีความสุข" ก็ได้นะครับ ที่ต้องมาทนอยู่กับคนที่ไม่รู้จักโต


ก่อนในท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้จะกลายมาเป็น "ระเบิดเวลา" ที่รอ "เวลาระเบิด" ภายในครั้งเดียวนั่นเอง นั่นจึงทำให้บางคู่ที่แม่คบกันมานานแล้วแต่ก็ยังมีอันต้องเลิกรากันไป


คนเราบางทีควรจะรู้ตัวเองนะครับว่าอันไหควรอันไหนไม่ควร หากแต่คนรอบข้างตักเตือนแล้วตักเตือนเล่าก็ยังคงไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง แบบนั้นก็คงไม่มีใครทนได้หรอกครับ ต่อให้ รัก ขนาดไหนก็ตาม แต่มนุษย์เราก็มีขีดจำกัดของความอกทนเหมือนกัน


คนฝั่งที่ทนก็จะคิดว่า ตัวเองรักเขา ต้องทนนิสัยที่แย่ๆของเขาได้ และเชื่อว่า สักวันความรักที่มีให้เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเขาเอง โดยที่หารู้ไม่ว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่คนฝั่งที่ทำตัวไม่ดีนั้นจะรู้สำนึก ว่านิสัยที่ไม่ดีของเขานั้น ทำให้คนรักเขารับไม่ได้ (ก็ในเมื่อคุณทนอยู่อย่างเดียวโดยทีไม่เคยตักเตือนเขาเลย)หรือต่อให้ตักเตือนแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะคิดว่า ยังไงซะ คุณรักเขา


ครับ  คุณรักเขา คุณอาจจะทนได้ในตอนนี้ แต่คุณจะทนได้นานสักเท่าไหร่ และ ถ้าหากแต่งงานกันไป แล้วคุณยังต้องทนกับนิสัยแย่ๆที่เขาไม่เคยคิดจะปรับปรุง คุณคิดหรือว่าถึงตอนนั้นคุณยังคงทนเขาได้อีกหรือไม่?


หรือถ้าทนได้คุณคิดหรือว่า คุณจะมีความสุขแบบที่คุณควรจะได้รับ?


"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ความรัก"


ใช่ครับ


กาลเวลาจะพิสูจน์ความรักว่าความรักนั้นจะเป็นอย่างไร


บางคู่คบกันไม่ถึงอาทิตย์ก็เป็นคู่ชีวิตกันได้แล้ว  แต่บางคู่ต่อให้คบกันมาเป็นสิบๆปีก็เลิกกันได้เช่นกัน


แค่ถามตัวเองทุกครั้งว่าคุณมีความสุขกับรักครั้งนี้รึเปล่า? .....หรือถ้ายัง (ทน) อยู่กับรักครั้งนี้ต่อไปมันจะมีความสุข หรืออะไรดีขึ้นมั๊ย?


ถามตัวเองอยู่เสมอๆกับคำถามเหล่านี้ไม่ว่าความรักของคุณจะผ่านมากี่ปีกี่เดือนแล้วก็ตาม เพราะกาลเวลาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้เสมอ แล้วทำไมเวลาจะเปลี่ยนแปลงความรักที่มันขึ้นอยู่กับแค่ "คน 2 คน"ไม่ได้


ตอนนี้ผมก็กำลังทนอยู่เหมือนกัน....ใครที่สนทสนมกับผมคงจะรู้กันดีว่า ตอนนี้ผมคบกับ แฟน คนปัจจุบัน มา 7 ปีแล้ว และ คงจะรู้ดีว่าแฟนคนเขาเป็นคนนิสัยอย่างไร (ถึงจะไม่รู้ละเอียดเท่าผมก็เถอะ)


7ปี เหมือนมันจะนานนะครับ แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าผมมหมดความอดทน ..... พรุ่งนี้แฟนผมเธออาจจะปรับปรุงตัวในเรื่องที่เธอเคยแย่มาตลอดก็ได้ครับ เช่นเดียวกันกับผมที่อาจจะปรับปรุงตัวในเรื่องที่ผมเคยแย่ตลอดมาเช่นเดียวกัน


ความรักมันไม่มีอะไรตายตัวหรอกครับ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


บางคู่อาจจะทะเลาะกันมาตลอกเวลาที่อยู่ร่วมกัน  แต่ก็มีความสุขและอยู่ร่วมกันต่อไปได้จนถึงบั้นปลายของชีวิต เพราะต่างฝ่ายต่างยอมที่จะปรับปรุงตัวเข้าหากันและกัน  ไม่ใช่ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายเข้ามาหา และอีกฝ่ายคอยแต่จะเดินถอยหลังหนีตลอด


แต่บางคู่อาจจะคบกันมาเป็นสิบๆปีพร้อมความรักที่มั่นคง แต่บางทีพรุ่งนี้คุณอาจจะเบื่อและเริ่มรู้สึกอยากจะเริ่มใหม่กับใครสักคนที่ ดูแล เข้าใจ และปรับปรุงตัวเพื่อคุณได้ ไม่ใช่คนๆเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยแปลงอะไรไปในทางที่ดีขึ้นเลย


ถามตัวเองดูนะครับว่า ความรักของคุณทุกววันนี้ มัน "ทนอยู่" หรือ "อยู่ทน" !?!

1 ความคิดเห็น: